Monday, June 29, 2015

เลี้ยงหมาตามราศี



          อย่าคิดว่าจะเลี้ยงหมาตามใจชอบ เดี๋ยวนี้ทำอะไรต้องดูตาม้าตาเรือ เลี้ยงสุ่ม ๆ เดี๋ยวจะโดนต่อว่าว่าไม่รู้จักคิด มาดูซิว่าคุณเหมาะกับหมาพันธุ์ไหน

  ราศีมังกร (22 ธ.ค. – 19 ม.ค.)

          พันธุ์ที่เหมาะกับคุณคือ อิงลิชชีปด็อก หรือค็อกเกอร์ สแปเนียล

  
ราศีกุมภ์ (20 ม.ค. – 18 ก.พ.)

          พันธุ์ที่เหมาะกับคุณคือ เทอร์เรียร์ หรือบอร์เดอร์ คอลลี่

  
ราศีมีน (19 ก.พ. – 20 มี.ค.)

          พันธุ์ที่เหมาะกับคุณคือ ลาบราดอร์ หรือ ปอมเมอเรเนียน


ราศีเมษ (21 มี.ค. – 19 เม.ย.)

          พันธุ์ที่เหมาะกับคุณคือ ไม่มี ชาวราศีนี้ค่อนข้างจะเป็นคนขี้ใจร้อน และวู่วาม ไม่เหมาะกับสัตว์เลี้ยงที่ต้องการการดูแลเอาใจใส่เช่นสุนัข

ราศีพฤษก (21 เม.ย. – 20 พ.ค.)

          พันธุ์ที่เหมาะกับคุณคือ อิงลิชชีปด็อก หรือเวลช์ คอร์กี้

  
ราศีเมถุน (21 พ.ค. – 20 มิ.ย.)

          พันธุ์ที่เหมาะกับคุณคือ  ไวมาราเนอร์ มอลทีส หรือกลุ่มเทอร์เรีย

  
ราศีกรกฎ (21 มิ.ย. – 23 ก.ค.)

          พันธุ์ที่เหมาะกับคุณคือ โกลเด้น ลาบราดอร์ หรือแบล๊คลาบราดอร์

  
ราศีสิงห์ (24 ก.ค. – 22 ส.ค.)

          พันธุ์ที่เหมาะกับคุณคือ โดเบอร์แมน หรือ เยอรมัน เชพเพิร์ด

  
ราศีกันย์ (23 ส.ค. – 22 ก.ย.)

          พันธุ์ที่เหมาะกับคุณคือ แจ๊ค รัซเซล ชิวาวา หรือ พุดเดิ้ลทอย

  
ราศีตุล (23 ก.ย. – 22 ต.ค.)

          พันธุ์ที่เหมาะกับคุณคือ ทอยเฟรนช์พุดเดิ้ล พุดเดิ้ล หรือ ดัลเมเชี่ยน

  
ราศีพิจิก (23 ต.ค. – 21 พ.ย.)

          พันธุ์ที่เหมาะกับคุณคือ พันธุ์ผสม หรือ ชเนาเซอร์

  
ราศีธนู (22 พ.ย. – 21 ธ.ค.)

          พันธุ์ที่เหมาะกับคุณคือ เรดเซตเตอร์ ออสเตรเลียน แคทเทิลด๊อก หรือ อัฟกันเซตเตอร์

  
           อย่าง ไรก็ตาม หากหาไม่ได้ตามนี้ อะลุ่มอล่วยให้รับอุปการะหมากำพร้าตามวัดวา หรือหมาจรจัดข้างถนน แม้จะไม่เข้าคู่ราศี แต่ได้บุญเปี่ยมล้นแน่ ๆ จ้า

ขอขอบคุณข้อมูลจาก


เครดิตภาพ  https://www.pinterest.com/pin/306033737149758309/

Thursday, June 25, 2015

10 อันดับ สุดยอดสุนัขเฝ้าบ้าน



1)  ร็อตไวเลอร์

สุนัขที่ได้รับการโหวตให้เป็นสุดยอดสุนัขเฝ้าบ้านคือ "สุนัขร็อตไวเลอร์" ซึ่งเป็นสุนัขที่ในสมัยโบราณกองทัพโรมันใช้ในราชกาลสงครามเพราะมีความแข็ง แรงซื่อสัตย์อดทนแล้วยังมีโครงสร้างขนาดใหญ่น่าเกรงขาม สุนัขพันธุ์นี้มีความแข็งแรงฝึกง่ายมีจิตประสาทว่องไวมีความกระตือรือร้นสูง แข็งแรงเลี้ยงง่ายแล้วก็ฝึกฝนได้ง่าย ในยุคปัจจุบันสุนัขสายพันธุ์นี้ก็เป็นสุนัขที่ถูกใช้ในราชกาลทหารและใช้คุม นักโทษในคุกแม้จะเป็นสุนัขขนาดใหญ่แต่ก็มีความสามารถปรับตัวเข้ากับบ้านขนาด เล็กหรือบางตัวสามารถอยู่ตามอพาทเม้นได้เพียงแต่ต้องพาไปออกกำลังกายนอกบ้าน บ้าง แต่เนื่องจากสุนัขสายพันธุ์นี้หากเป็นสายพันธุ์ที่สายเลือดไม่ดีพออาจมีความ ก้าวร้าวจนเป็นอันตรายกับเด็กและคนแก่ได้จึงมีความจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้อง มีการฝึกพัฒนาการด้านสังคมตังแต่วัยเยาว์ (Socialization) ในเมืองไทยสุนัขพันธุ์นี้ก็มีความนิยมสูงมากแม้จะมีข่าวร้ายเชิงลบอยู่เสมอ

2)  เยอรมันเชพเพรอด

สุนัขที่ได้รับการโหวตมากเป็นอันดับที่สองคือ "สุนัขเยอรมันเชพเพรอด" ซึ่งผู้โหวตส่วนใหญ่ให้ความเห็นว่าเลือกสุนัขพันธุ์นี้เป็นสุดยอดสุนัขเฝ้า บ้านเพราะเป็นสุนัขที่ฉลาดตัวใหญ่เป็นที่น่าเกรงขามของผู้บุกรุกแต่เป็น สุนัขที่มีจิตประสาทดีเข้ากับทั้งเด็กและคนชราในครอบครัวได้เป็นอย่างดี เนื่องจากเป็นสุนัขที่ฝึกฝนได้ง่ายที่สุดสายพันธุ์หนึ่งจึงถูกเลือกใช้ใน ราชการมากที่สุดของโลก ความตื่นตัวดีและเห่าเสียงดังสร้างความหวาดกลัวให้ผู้บุกรุกแล้วสุนัขสาย พันธุ์นี้ยังเป็นเพื่อนในการออกกำลังกายกับเจ้าของได้เป็นอย่างดี สำหรับในเมืองไทยสุนัขพันธุ์นี้เคยได้รับความนิยมอย่างมากในอดีตแต่เนื่อง จากการเพาะพันธุ์สุนัขเกรดสูงมีกฎกติกามารยาทค่อนข้างมากนักธุรกิจสัตว์ เลี้ยงในเมืองไทยจึงไม่นิยมเพาะพันธุ์สุนัขสายพันธุ์นี้เชิงการค้าทำให้การ เลี้ยงจำกัดอยู่ในกลุ่มแฟนพันธุ์อย่างแท้จริง

3)  สก็อตติชเทอร์เรีย

อันดับที่สามคือ "สก็อตติชเทอร์เรีย" ผมยอมรับว่าส่วนตัวแล้วรู้จักสุนัขสายพันธุ์นี้น้อยมากจำได้ว่ามันเป็นสุนัข ตัวเตี้ยตัวนิดเดียว แต่ฝรั่งเค้าให้ฉายาสุนัขพันธุ์นี้ว่าจอมอึดมหากาฬ (Little Diehard) ฝรั่งเค้าให้ความเห็นกันว่ามันฉลาดเป็นกรดแล้วก็มีความจงรักภักดีกับเจ้า ของอย่างมากมันจะคอยระแวดระวังภัยแล้วเตือนให้เจ้าของรู้ตัวอยู่ตลอดเวลา อย่างเวลาออกไปเดินเล่นในป่ามันจะวิ่งออกหน้าเพื่อสำรวจเส้นทางให้เจ้าของ ถ้าเจออันตรายมันก็จะเตือนให้เจ้าของรู้ เมื่ออยู่ในสถานการณ์คับขันมันก็พร้อมเผชิญหน้าศัตรูเพื่อปกป้องเจ้าของ เป็นสัตว์เลี้ยงที่ยอดเยี่ยมแล้วยังสามารถใช้จับหนูได้อีกด้วยแม้จะตัวเล็ก หนักเพียง 7-9 กิโลกรัมแต่มันแข็งแรงอย่างมากเลยทีเดียว

4)  เวสไฮแลนด์ไวท์เทอร์เรีย

อันดับที่สี่ "เวสไฮแลนด์ไวท์เทอร์เรีย" หรือ "เจ้าเวสตี๊ (Westie)" สุนัขสายพันธุ์นี้ก็มีขนาดใกล้เคียงกับสก็อตติชเทอร์เรีย สุนัขตัวนี้เพื่อนสนิทผมเลี้ยงอยู่ตัวหนึ่งมันแสบมากใครไปใกล้นายมันมันจะ เห่าแล้วก็จะกัดถ้ายังไม่ยอมถอยจากนายของมัน ตัวมันเตี้ยเล็กแต่วิ่งเร็วมากดูน่ารักแต่มันหวงของทุกอย่างของมันอย่างมาก โดยเฉพาะชามข้าว ฝรั่งให้ความเห็นว่ามันเป็นสุนัขที่ฉลาดเข้ากับสมาชิกทุกเพศทุกวัยได้ดี สามารถเลี้ยงเป็นเพื่อนออกกำลังกายแล้วก็สามารถเห่าเตือนภัยให้เจ้าของได้ จึงเป็นสุนัขที่ได้รับความนิยมอย่างสูง สุนัขสายพันธุ์นี้ก็ได้รับความนิยมในบ้านเราอย่างมากเช่นกัน

5)  มินิเจอร์ชเน๊าเซ่อร์

อันดับที่ห้า "สุนัขมินิเจอร์ชเน๊าเซ่อร์" สุนัขพันุ์นี้ติดท็อปเทนสุนัขที่มีประชากรมากที่สุดในสหรัฐอเมริกาเลยใน เมืองไทยก็มีความนิยมอย่างมากเช่นกันครั้งหนึ่งเคยมีราคาแพงมากแต่ตอนนี้ไม่ แพงมากนัก สุนัขพันธุ์นี้เห่าเก่งจิตประสาทว่องไวแล้วก็ฉลาดเรียนรู้อะไรได้ง่ายแต่ใน เมืองไทยมีข้อเสียคือต้องมีการดูแลเรื่องขนเป็นอย่างดีมิฉะนั้นจะเป็นสุนัข ที่สกปรกได้ง่าย สุนัขสายพันธุ์นี้ตัวเล็กแต่แข็งแรงจิตประสาทว่องไวสามารถเห่าเตือนเจ้าของ ได้เมื่อมีภัยมาถึง การที่เป็นสุนัขที่ตัวค่อนข้างเล็กจึงสามารถเลี้ยงในบ้านทาวเฮ้า, คอนโด, อพาทเม้นหรือในบ้านเดี่ยวที่มีพื้นที่มากได้เป็นอย่างดี

6)  ยอร์กเชียเทอร์เรีย

อันดับที่หก "ยอร์กเชียเทอร์เรีย" สุนัขพันธุ์นี้เป็นสุนัขที่ได้รับโหวตให้เป็นสุนัขยอดนิยมอันดับสอง ของอเมริกา มีสมญานามว่า "ยอร์กกี้ (Yorkie)" สุนัขตัวนี้แม้จะตัวเล็กมากแต่มันก็สามารถเตือนภัยให้เจ้าของได้เพราะมันจะ เห่าเก่งทำให้เจ้าของรู้ตัวเมื่อมีผู้บุกรุกเข้ามาหรือมีสิ่งแปลกปลอมเข้ามา ในบริเวณบ้าน สุนัขพันธุ์นี้เพื่อนบ้านผมเลี้ยงไว้ตัวหนึ่งผมเห็นด้วยว่ามันเป็นยามที่ดี มากเพราะมันจะวิ่งอยู่ในตัวบ้านเวลามีอะไรแปลกๆ ใกล้บริเวณบ้านมันก็วิ่งไปเห่าทำให้เจ้าของรู้ตัว การที่มันอยู่ในตัวบ้านเจ้าหัวขโมยจะทำอันตรายอะไรมันก็ยากมันจึงเหมือน สัญญาณเตือนภัยที่มีชีวิต ในหลายประเทศก็มีความนิยมอย่างกว้างขวางทั้งในสหรัฐอเมริกา, ญี่ปุ่นแล้วเมืองไทยก็มีความนิยมมากเพราะมันฉลาดและน่ารักอย่างมาก

7)  Cairn Terrier

อันดับที่เจ็ด "สุนัข Cairn Terrier" สุนัขพันธุ์นี้มีถิ่นกำเนิดในสก็อตแลนด์เป็นสุนัขพันธุ์เล็กที่หน้าตาบ้อง แบ๊วน่ารักขนยุ่งๆเป็นสุนัขตัวเล็กที่ซุกซนและอยู่ไม่ค่อยสุข ผมยอมรับว่าไม่ค่อยมีความรู้เรื่องสุนัขพันธุ์นี้แต่ฝรั่งบอกว่ามันจิ๋วแต่ แจ๋วตัวเล็กแต่ไม่กลัวใคร มีความรักบ้านหวงเจ้าของสามารถเลี้ยงไว้เห่าเตือนภัยได้ เลี้ยงไว้เป็นเพื่อนเล่นของลูกได้ดีสุนัขพันธุ์มีบรรพบุรุษร่วมกับเจ้า เวสตี๊ ในเมืองไทยไม่ค่อยเห็นสุนัขสายพันธุ์นี้มากนัก

8)  ชิวาวา

อันดับที่แปด "ชิวาวา" ครับไม่น่าเชื่อสุนัขจิ๋วตัวเล็กที่สุดของโลกจะได้โหวตติดท็อปเทนสุดยอด สุนัขเฝ้าบ้านกับเค้าด้วย แต่ถ้าผมโหวตผมก็จะโหวตให้เหมือนกันครับเพราะผมว่ามันสามารถเลี้ยงในตัวบ้าน ได้ไม่มีกลิ่นตัวรุนแรงไม่มีขนร่วงมากแล้วก็ขับถ่ายน้อยสอนให้ขับถ่ายเป็น ที่เป็นทางได้ ถ้าเราเอาสุนัขขนาดใหญ่มาเลี้ยงในตัวบ้านคงทำความสะอาดกันไม่หวาดไม่ไหวเจ้า ชิวาวาแม้จะตัวเล็กแต่มันก็เห่าเตือนภัยให้เจ้าของได้ทำให้เป็นสุนัขยอดนิยม ในไต้หวัน ญี่ปุ่น อิตาลี รวมทั้งเมืองไทยแต่สำหรับในเมืองไทยเรานิยมสุนัขขนาดเล็กจึงไปเล่นสุนัขสาย ไต้หวันสายญี่ปุ่นซึ่งมักเกิดจากการผสมเลือดชิดมาก ผมสังเกตว่าสุนัขเหล่านี้จิตประสาทและความแข็งแรงจะไม่ดีเท่าสายอเมริกันบาง คนจึงรู้สึกขัดแย้งว่ามันไม่ค่อยเห่าเท่าไหร่

9)  แอร์รีเดลเทอร์เรีย

อันดับที่เก้า "สุนัขแอร์รีเดลเทอร์เรีย (Airedale Terrier)" สุนัขพันธุ์นี้มีประชากรมากที่สุดในสุนัขวงศ์เทอร์เรียจึงได้รับสมญานามว่า "King of Terrier" สุนัขพันธุ์ได้รับการยกย่องว่ามีความฉลาดอยู่ในชั้นแนวหน้าของสายพันธุ์ สุนัขทั้งปวง อีกทั้งมีความเก่งกล้าสามารถในหลายด้านทำให้ในสนามการแข่งกีฬาความว่องไว (Agility) การเชื่อฟังคำสั่ง (Obedience), จานร่อนและกีฬาอื่นๆจะมีสุนัขสายพันธุ์นี้เข้าแข่งขันเป็นจำนวนมาก แม้เป็นสุนัขขนาดเล็กแต่ได้รับการจัดอันดับให้เป็นสุนัขที่มีทักษะการเป็น สุนัขปกป้องบ้านเรือนและเจ้าของอยู่ในชั้นแนวหน้าสายพันธุ์หนึ่ง เนื่องจากเป็นสุนัขที่มีความรักเจ้าของมีการเชื่อฟังคำสั่งได้ดีจึงถูกโหวต ให้อยู่ในสุดยอดสุนัขเฝ้าบ้านครับ

10)  พูเดิล

อันดับสิบ "พูเดิล" สุนัขสายพันธุ์นี้มีถิ่นกำเนิดในฝรั่งเศสเดิมทีเดียวเป็นสุนัขล่าสัตว์ใช้ เก็บนกที่ยิงตกแต่เนื่องจากสุนัขส่วนหนึ่งเป็นที่นิยมของราชวงศ์ทำให้ถูกนำ ไปพัฒนาพันธุ์ในราชสำนักจนเหมาะที่จะเลี้ยงในบ้านเรือนได้รับการยอมรับกัน ว่าเป็นสุนัขที่ฉลาดที่สุดในโลกสายพันธุ์หนึ่งจะเห็นได้จากคณะละครสัตว์หรือ คณะแสดงมายากลก็จะมีสุนัขพูเดิลเป็นตัวเอกอยู่เสมอในแง่ความสามารถในการเฝ้า บ้านแล้วส่วนตัวผมยอมรับว่าไม่เป็นรองใครเพราะมันเห่าเก่งมากจนบางคนว่าน่า รำคาญเสียด้วยซ้ำไปแต่สุนัขพันธุ์นี้เป็นสุนัขที่ฉลาดผมคิดว่าน่าจะเป็น สุนัขสายพันธุ์ต่างประเทศที่มีประชากรมากที่สุดในเมืองไทย


แหล่งที่มา  http://www.toptenthailand.com/detail.php?id=20131127060329964, http://www.ubmthai.com/leksoundsmf3/index.php?topic=95670.0
เครดิตภาพ https://www.pinterest.com/pin/555772410266135732/

Thursday, June 4, 2015

เมื่อน้องหมาต้องย้ายบ้าน



        การเปลี่ยนที่อยู่อาศัยเป็นเรื่องปกติที่คนเราเข้าใจได้ แต่สำหรับน้องหมาแล้ว การย้ายที่อยู่ใหม่ถือเป็นเรื่องใหญ่มาก เพราะเขาต้องปรับตัวให้เข้ากับสิ่งใหม่ ๆ ที่อยู่รอบตัว ซึ่งบางครั้งการย้ายบ้านอาจทำให้น้องหมาของเรามีพฤติกรรมที่เปลี่ยนแปลงไป อย่างเห็นได้ชัด จากที่เคยว่านอนสอนง่าย ทำธุระส่วนตัวเป็นที่เป็นทาง ก็อาจเปลี่ยนเป็นตรงกันข้ามหมดทุกอย่าง เราลองมาดูกันดีกว่าค่ะว่า น้องหมาของเรามีพฤติกรรมที่เปลี่ยนไปเนื่องมาจากสาเหตุอะไร

          การย้ายบ้านบางครั้งอาจทำให้เราเหนื่อย หงุดหงิด อารมณ์เสีย ยิ่งถ้าเราเผลอพาลมาลงที่น้องหมาด้วยล่ะก็ จะยิ่งทำให้น้องหมารู้สึกว่าเจ้านายของเขาเปลี่ยนไป น้องหมาก็จะเริ่มกังวล เครียด โดยที่เราไม่รู้ตัว และน้องหมาก็อาจคาดการณ์ว่าต้องมีสิ่งไม่ดี สิ่งที่แย่เข้ามาแน่เมื่อเขาย้ายไปอยู่ที่บ้านใหม่

 
          นอกจากนี้ เมื่อเราย้ายที่อยู่เสร็จแล้ว เราอาจรู้สึกเหนื่อยล้าจนลืมน้องหมาตาดำ ๆ ไปเลย น้องหมาที่มีความวิตกกังวลเป็นทุนเดิมอยู่แล้วว่าต้องมีสิ่งที่ไม่ดีเกิด ขึ้น แล้วยังต้องมาเจอกับสิ่งต่าง ๆ ที่ไม่คุ้นเคยอยู่รอบ ๆ ตัว จึง อาจทำให้น้องหมาเกิดควบคุมสติไม่อยู่ เห่าหอน หรือทำพฤติกรรมต่าง ๆ ที่ไม่เคยทำมาก่อนได้ และบางครั้งยังส่งผลใมห้น้องหมา เกิดอาการก้าวร้าวมากขึ้นด้วย ดังนั้น เมื่อเพื่อน ๆ จะย้ายบ้านใหม่ ควรเตรียมตัวเองและน้องหมาดังต่อไปนี้ค่ะ

          ** ต้องควบคุมอารมณ์ของตัวเองให้เป็นปกติเหมือนกับทุก ๆ วัน อย่าพาลอารมณ์เสียใส่น้องหมาในวันที่ต้องย้ายที่อยู่

          **
หมั่นพาน้องหมาไปเที่ยวบ้านใหม่ก่อนที่จะย้ายบ้านจริง ๆ เพื่อให้เขาคุ้นเคยกับสถานที่

         
** หากการย้ายบ้านในครั้งนี้ มีสาเหตุมาจากน้องหมาก็อย่าไปโทษเขา อย่าไปดุหรือทำอารมณ์เสียใส่น้องหมา เพราะจริง ๆ แล้วเราเองที่ไม่สามารถควบคุมเขาได้

         
** เมื่อถึงที่อยู่ใหม่แล้ว ควรพาน้องหมามานั่งสงบนิ่งบริเวณหน้าประตูบ้าน ก่อนที่จะให้น้องหมาเข้าไปสำรวจภายในบริเวณบ้าน

         
** เมื่อน้องหมาเริ่มสงบนิ่งแล้วเราจึงขนย้ายข้าวของ โดยให้เขานั่งรอและดูเราอยู่นิ่ง ๆ
 
          สิ่งสำคัญที่สุดคือ เมื่อเพื่อน ๆ ย้ายของเข้าที่อยู่ใหม่เรียบร้อยแล้วก็อย่าเหนื่อยจนลืมที่จะมานั่งข้าง ๆ น้องหมา ลูบหัวเขาแล้วถามว่า "เป็นไงบ้าง บ้านใหม่ของเรา" เพื่อให้น้องหมารู้สึกปลอดภัยและไม่หวาดกลัวที่อยู่ใหม่

          หากเพื่อน ๆ ครอบครัวใดกำลังจะย้ายที่อยู่ใหม่ในช่วงนี้แล้วล่ะก็ อย่าลืมที่จะปฏิบัติตามที่แนะนำมานะคะ อย่าลืมว่าน้องหมาก็มีชีวิต จิตใจ มีความรู้สึกนึกคิดเหมือนเรา เพียงแต่เขาพูดไม่ได้ ถามไม่ได้เท่านั้น เพียงปฏิบัติตามนี้ เพื่อน ๆ ก็ไม่ต้องปวดหัวกับพฤติกรรมที่ไม่พึงประสงค์ของน้องหมาเมื่อย้ายที่อยู่ใหม่ แล้วล่ะค่ะ



แหล่งที่มา  Dogazine, http://pet.kapook.com/view17621.html