วิธีเตรียมความพร้อมพาสัตว์เลี้ยงไปเที่ยว เหล่าสาวก Pet Lover ที่อยากพาสัตว์เลี้ยงติดสอยห้อยตามไปเที่ยวด้วย ต้องมาดูเคล็ดลับเตรียมความพร้อมกันหน่อย
สำหรับคนที่มีสัตว์เลี้ยงแสนรักหากอยากเที่ยวต่างจังหวัดหรือเที่ยวไกลถึงต่างประเทศ แต่ก็สงสารสัตว์เลี้ยง กลัวว่าถ้าทิ้งเขาให้เฝ้าบ้านจะทำให้เขาเหงาเอาได้ หลายคนเลยตัดสินใจหิ้วเจ้าสี่ขาขนปุยทั้งน้องหมาหรือน้องแมวไปเที่ยวด้วยซะเลย แต่ก่อนจะออกเดินทางท่องโลกกว้างอย่างสุขใจ ลองมาดูวิธีเตรียมพร้อมก่อนพาเจ้าสี่ขาร่วมทริปเที่ยวกับเราอย่างปลอดภัยก่อนดีกว่าค่ะ
1. พาหนะของสัตว์เลี้ยงต้องปลอดภัย
พาหนะหรือที่เรียกว่า กรงหรือคอกใส่สัตว์เลี้ยงเพื่อให้หิ้วไปไหนมาไหนด้วยง่าย ๆ จำเป็นต้องถูกตรวจสอบก่อนว่ามีความแข็งแรง ทนทาน กันกระแทก และกว้างขวางพร้อมทั้งมีรูระบายอากาศให้สัตว์เลี้ยงด้วยหรือเปล่า แต่หากคุณต้องเดินทางด้วยเครื่องบิน ควรตรวจสอบก่อนว่า ข้อกำหนดในการนำสัตว์เลี้ยงโดยสารไปด้วยนั้นมีอะไรบ้าง เช่น กรงบรรจุสัตว์เลี้ยงต้องถูกต้องตามข้อกำหนดของสายการบินทุกระเบียดนิ้ว เป็นต้น
2. ติดป้ายชื่อกันหลงหาย
เมื่อออกนอกสถานที่ เจ้าสี่ขาของเราจะคึกคักเป็นพิเศษ ซึ่งอาจทำให้เจ้าของกับสัตว์เลี้ยงพลัดหลงกันได้ ดังนั้นเพื่อความรอบคอบ ควรติดป้ายชื่อสัตว์เลี้ยงที่บอกรายละเอียดเกี่ยวกับเจ้าของ ทั้งชื่อ ที่อยู่ เบอร์ติดต่อ และอีเมลเอาไว้ให้เรียบร้อย เผื่อสัตว์เลี้ยงพลัดหลงกับคุณเข้า ผู้ที่พบเห็นผ้ายชื่อที่ห้อยคอสัตว์เลี้ยงอยู่ จะได้นำสัตว์เลี้ยงของคุณมาส่งคืน
3. เพิ่มมาตการความปลอดภัยระหว่างทางด้วยสายรัดเข็มขัด
สำหรับคนที่พาสัตว์เลี้ยงขึ้นรถไปไหนมาไหนด้วยกันตลอด อาจจะต้องหาเบาะนั่งในรถสำหรับสัตว์เลี้ยง หรือสายรัดเข็มขัดสำหรับสัตว์เลี้ยงโดยเฉพาะมาใช้สักหน่อย ทั้งนี้ก็เพื่อความปลอดภัยของตัวคุณเองและของสัตว์เลี้ยงเองด้วย เพราะระหว่างทางที่เรากำลังขับรถอยู่อาจมีบางช่วงที่ต้องเบรกอย่างแรง สัตว์เลี้ยงอาจทรงตัวไม่อยู่ เคลื่อนไปกระแทกกับส่วนของรถหรือตกเบาะเอาได้ หรือในกรณีที่คุณกำลังขับรถอย่างระวัง แต่เจ้าสี่ขาจอมซนมาพัวพันปีนป่าย ก็อาจนำไปสู่อุบัติเหตุได้เช่นกัน
4. ขวดน้ำหมาแมว สิ่งที่ขาดไม่ได้
ในระหว่างวันน้องหมาและน้องเหมียวของเราต้องการน้ำไม่ต่างจากคนเลยนะคะ ฉะนั้นเมื่อจะหอบหิ้วเขาเดินทางไปเที่ยวกับเราด้วย อย่าลืมขวดน้ำสำหรับน้องหมาน้องแมวเด็ดขาด เติมน้ำสะอาดไปให้เต็มด้วยก็ดีค่ะ เมื่อน้องหมาน้องแมวหิวน้ำเมื่อไรจะได้เลียกินน้ำได้เลยทันที ไม่ต้องกลัวน้ำจะหกเลอะรถด้วย
5. กล่องยาสามัญสำหรับสัตว์เลี้ยง
ยาสามัญสำหรับสัตว์เลี้ยงเป็นอะไรที่ขาดไม่ได้เช่นกัน และต่อให้คุณไม่คาดคิดและไม่อยากให้น้องหมา น้องแมวเจ็บป่วยระหว่างทริปเลย แต่ยังไงก็ควรเตรียมยาสามัญสำหรับเจ้าสี่ขาติดไปด้วย ไม่ว่าจะเป็นยาใส่แผล คอตตอนบัด ยาทาแก้ฟกช้ำ แมลงสัตว์กัดต่อย หรือยาถอนพิษต่าง ๆ ก็ควรนำติดไปด้วย เวลาเกิดเหตุฉุกเฉินจะรักษาเขาในเบื้องต้นได้ทันที
6. ของเล่นของเจ้าสี่ขาจอมซน
ครั้นจะปล่อยให้สัตว์เลี้ยงเดินเล่นหรือนั่งเฉย ๆ เจ้าสี่ขาคงเบื่อหน่ายแย่เลยเนอะ ฉะนั้นก่อนจะออกเดินทางอย่าลืมตรวจสอบด้วยว่า ได้หยิบของเล่นของน้องหมาน้องแมวติดกระเป๋ามาด้วยหรือเปล่า แล้วในระหว่างเดินทางจะหยิบของเล่นออกมาเล่นกับเขาด้วยก็คงเพลินดีทั้งคนทั้งหมาแมวเลยล่ะค่ะ
7. กระบะทรายอันเล็กสำหรับเดินทาง
กระบะทรายอันเล็กกะทัดรัดเป็นอุปกรณ์ที่ควรมีติดรถไว้ด้วย เพราะหากระหว่างทางน้องแมวเกิดอยากเข้าห้องน้ำขึ้นมา จะได้นั่งขับถ่ายได้อย่างสบายใจ รวมทั้งคุณเองก็ไม่ต้องกลัวรถจะเปรอะเปื้อน หรือกลัวน้องแมวจะกระโจนหนีหายไปในระหว่างที่พาเขาลงไปขับถ่ายข้างทาง แต่ทั้งนี้ควรตั้งวางกระบะทรายให้รัดกุม ไม่ขยับเขยื้อนไปไหนได้โดยง่ายด้วยนะคะ หรือจะใช้วิธีเททรายแมวลงไปเล็กน้อยเพื่อกันทรายกระฉอกก็ได้
ส่วนน้องหมาเจ้าของอาจจะต้องจับสังเกตเองว่าเขาจะอยากขับถ่ายตอนไหน แล้วจึงค่อยจอดรถข้างทางเพื่อให้เขาทำธุระส่วนตัว หรือหากคุณแน่ใจว่าฝึกน้องหมาเรื่องขับถ่ายให้เป็นเวลามาดีอยู่แล้ว ก็คอยเช็กเวลาพาเขาไปเข้าห้องน้ำให้ดี ๆ ล่ะ
8. เสริมเบาะรองนั่งให้น้องหมา
น้องหมาของบางบ้านอาจจะเป็นพันธุ์ใหญ่ ไม่สามารถนั่งในตระกร้าหรือเบาะนั่งสำหรับสัตว์เลี้ยงได้ จึงจำเป็นต้องนั่งบนเบาะรถยนต์เหมือนเรา ๆ ซึ่งในกรณีนี้คุณควรหาซื้อเบาะรองนั่งแบบเปลือย ๆ ลักษณะคล้ายผ้าคลุมเบาะกันเปื้อนมาวางให้เขานั่งไปพลาง ๆ ก่อน เป็นการป้องกันคราบเปื้อนและขนสัตว์ติดเบาะรถยนต์ได้อีกทาง
9. ฝังไมโครชิพให้สัตว์เลี้ยง
การฝังไมโครชิพเข้าไปภายใต้ผิวหนังของสัตว์ก็เพื่อระบุข้อมูลของสัตว์ตัวนั้น ๆ รวมทั้งเอาไว้สืบค้นเมื่อเกิดกรณีสุนัขหายด้วย โดยไมโครชิพจะมีรหัสเป็นตัวเลขอยู่ด้วยกัน 15 หลัก ตามมาตรฐานสากลโลก รหัส 3 ตัวแรกจะเป็นรหัสประเทศที่สัตว์อยู่ ส่วนรหัสอีก 12 ตัวที่เหลือจะเป็นรหัสข้อมูลที่ไม่ซ้ำกัน เพื่อให้บ่งชี้ที่มาที่ไปของสัตว์ได้โดยง่าย
ทั้งนี้การฝังไมโครชิพลงไปในผิวหนังสัตว์จะไม่ก่อให้เกิดอัตรายกับสัตว์เลี้ยงแม้สักนิดค่ะ แต่ในไมโครชิพจะอัดแน่นไปด้วยข้อมูลเกี่ยวกับสัตว์เลี้ยง ตั้งแต่ชนิดของสัตว์ พันธุ์ สี/ลักษณะ อายุ เพศ ตำหนิ รวมทั้งข้อมูลอื่น ๆ ในกรณีที่สัตว์ถูกขึ้นทะเบียนกับหน่วยงานใดหน่วยงานหนึ่ง และนอกจากนี้ก็ยังมีข้อมูลเจ้าของทั้งชื่อ ที่อยู่ เบอร์โทรศัพท์ และช่องทางติดต่ออื่น ๆ พร้อมกับมีชื่อสถานพยาบาลและหน่วยงานผู้ฝังไมโครชิพลงไปในตัวสัตว์เลี้ยงด้วยนะคะ โดยค่าใช้จ่ายในการฝังไมโครชิพสัตว์เลี้ยงต่อตัวจะตกอยู่ที่ประมาณ 600 บาทเท่านั้น ทั้งนี้ตอนกรอกข้อมูลลงไมโครชิพ อย่าลืมกรอกเป็นภาษาอังกฤษด้วยนะคะ
เตรียมตัวทั้งคนและสัตว์เลี้ยงให้พร้อมร่วมทริปเที่ยวไปกับเราด้วยวิธีง่าย ๆ แค่นี้ ก็ได้ไปเที่ยวด้วยกันอย่างสุขใจและปลอดภัยแล้วจ้า
https://pet.kapook.com/view93259.html
เครดิตภาพ https://www.pinterest.com/pin/747597606905538056/
No comments:
Post a Comment