Monday, March 2, 2020

น้องหมา เกาหูบ่อย อาจเป็นโรคช่องหูอักเสบ



         การดูแลหูและโรคช่องหูภายนอกอักเสบ (โรงพยาบาลสัตว์ศาลายามหาวิทยาลัยมหิดล)


         เจ้าตูบของคุณมีอาการต่อไปนี้หรือไม่ ....คันหู เกาหูบ่อย และมีขี้หูกลิ่นรุนแรงด้วย !!!

         ถ้าคำตอบคือ ใช่ ...น้องหมาของคุณอาจจะกำลังเป็นหูอักเสบก็เป็นได้


สาเหตุของปัญหาหูอักเสบ แบ่งออกเป็น 2 ปัจจัยหลัก ได้แก่...

         1. สาเหตุโน้มนำ

          ลักษณะโครงสร้างประจำพันธุ์ของสุนัขที่มีช่องหูตีบแคบ ใบหูพับลง หรือมีขนภายในช่องหูมาก

         2. สาเหตุหลัก เช่น ปรสิตภายนอก (เช่น เห็บ, หมัด หรือไรขี้เรื้อน), เชื้อโรค (เช่น แบคทีเรีย หรือรา) หรือ การแพ้ต่างๆ เช่น สิ่งสูดดม, อาหาร หรือสิ่งสัมผัส เป็นต้น

          การติดเชื้อแบคทีเรีย

          การติดเชื้อยีสต์หรือเชื้อรา

          การติดพยาธิภายนอก เช่น ไรขี้เรื้อนเปือก หรือไรขี้เรื้อนแห้ง เป็นต้น

          การแพ้ เป็นความผิดปกติของระบบภูมิคุ้มกันซึ่งตอบสนองไวเกินไป จัดเป็นสาเหตุหลักที่สำคัญของปัญหาหูอักเสบ ได้แก่ การแพ้สิ่งสูดดม การแพ้อาหาร การแพ้สิ่งสัมผัส หรือแพ้ยา

          สิ่งแปลกปลอมหรือการได้รับบาดเจ็บต่างๆ สุนัขจะเกาหรือทำร้ายตัวเองจนเกิดบาดแผลและเป็นผลให้เกิดการติดเชื้อแทรกซ้อนตามมาได้

          ความผิดปกติทางฮอร์โมน เนื่องจากความไม่สมดุลของฮอร์โมน

การทำความสะอาดช่องหู

         ช่องหูของสุนัขและแมวจะลักษณะเป็นท่อรูปตัว  L มักมีขนขึ้นมากในช่องหู ต้องถอนออกให้เรียบร้อย

         การใช้น้ำยาล้างหู โดยหยอดน้ำยาลงในช่องหูแล้วนวดเบาๆบริเวณโคนหูประมาณ30 วินาที แล้วจึงซับให้แห้งด้วยสำลีสะอาดและใช้ก้านไม้ที่พันด้วยสำลีที่ชุ่มน้ำยาทำ ความสะอาดช่องหู ทำซ้ำกันจนไม่พบว่ามีเศษเนื้อเยื่อ หรือขี้หูหลงเหลืออยู่ในช่องหูอีก หลังจากทำความสะอาดหูแล้ว ปล่อยให้เค้าสะบัดหู หรือสะบัดหัว สัปดาห์ละ 2-3 ครั้ง เนื่องจากการเช็ดหูบ่อยเกินไปอาจทำให้เยื่อบุช่องหูระคายเคืองได้

การป้องกันโรคหู

         เนื่องจากโดยปกติหูที่มีสุขภาพดีจะมีความสามารถในการป้องกันจากการติด เชื้อจุลินทรีย์นี้ได้ดี แต่ถ้าสิ่งแวดล้อมในช่องหูมีการเปลี่ยนแปลงไปอันเนื่องมาจากการแพ้ หรือมีความผิดปกติทางฮอร์โมน หรือมีความชื้น เชื้อแบคทีเรียและยีสต์จะสามารถเจริญเติบโตได้เป็นอย่างดี เป็นผลทำให้ไปทำลายกลไกการป้องกันการติดเชื้อที่ร่างมีอยู่ ดังนั้น สิ่งสำคัญที่ทำให้ช่องหูมีสุขภาพดีคือ ความสะอาด ควรตรวจสอบช่องหูของสัตว์เลี้ยงเป็นประจำอย่างสม่ำเสมอ

         โดยถ้ามีขี้หูเพียงเล็กน้อยถือว่าเป็นสิ่งปกติ แต่ถ้าสัตว์เลี้ยงชอบเล่นน้ำมาก หรือมีใบหูยาวห้อย หรือมีประวัติโรคของช่องหู ควรทำความสะอาดช่องหูเป็นประจำ(2-3 ครั้งต่อสัปดาห์) นอกจากนี้ช่องหูที่มีขนยาวมากก็ควรตัดให้สั้น เพื่อให้มีอากาศถ่ายเทได้สะดวก การรักษาโรคของช่องหูควรรักษา หรือกำจัดสาเหตุของโรค ซึ่งเป็นเหตุโน้มนำทำให้เกิดปัญหาของช่องหูจึงจะทำให้การรักษาประสบผลสำเร็จ และไม่กลับมาเป็นซ้ำอีก

การรักษา

         การรักษาจะขึ้นอยู่กับสาเหตุของปัญหาและภาวะแทรกซ้อนที่เกิดขึ้น ได้แก่

          การติดเชื้อแบคทีเรียจะรักษาโดยการใช้ยาปฏิชีวนะที่เหมาะสมต่อชนิดของแบคทีเรียที่ก่อโรคนั้น

          การติดเชื้อยีสต์จะรักษาด้วยยาต้านเชื้อราแบบเฉพาะที่ในช่องหู เพียงอย่างเดียว ถ้าในกรณีติดเชื้อรุนแรงนั้นจะรักษาด้วยยาต้านเชื้อราแบบเฉพาะที่ในช่องหู ร่วมกับการกินยาฆ่าเชื้อยีสต์ร่วมด้วย

          การติดไรในหู หลักสำคัญในการกำจัดไรในหูให้ได้ผลนั้น จะต้องจะรักษาด้วยยากำจัดไรทั้งที่อยู่ในช่องหูและตามส่วนอื่นของร่างกาย ด้วย ดังนั้นการหยอดหูเพียงอย่างเดียวอาจไม่เพียงพอ จำเป็นต้องใช้ยากำจัดปรสิตภายนอกที่อยู่ตามร่างกายร่วมด้วย

          การรักษาการแพ้มักจะรักษาด้วยการหมั่นทำความสะอาดช่องหูอย่าง สม่ำเสมอด้วยน้ำยาทำความสะอาดหู กินยาแก้แพ้ และเสริมกรดไขมันบางชนิด บางครั้งอาจจำเป็นต้องให้ยาลดอักเสบที่มีผลกดระบบภูมิคุ้มกันร่วมด้วย

         กรณีปัญหาช่องหูที่เกิดมาจากโรคอื่นๆในร่างกาย เช่น ความผิดปกติทางฮอร์โมน หรือการแพ้ จะต้องให้การรักษาสัตว์ทั้งตัว ไม่เฉพาะแต่ช่องหู เช่น การรักษาการแพ้สิ่งสูดดมนั้น จะต้องตรวจทดสอบการแพ้แล้วพยายามหลีกเลี่ยงสารดังกล่าว หรือการเสริมฮอร์โมนที่ผิดปกติ เป็นต้น

ขอขอบคุณข้อมูลจาก
โรงพยาบาลสัตว์ศาลายามหาวิทยาลัยมหิดล
https://pet.kapook.com/view18514.html
เครดิตภาพ  https://www.pinterest.com/pin/34621490877501296/

No comments:

Post a Comment