Thursday, November 30, 2017

เลี้ยงสุนัขพันธุ์ไหนดี...ถ้ามีเด็กในบ้าน



          การเลี้ยงสุนัขสักตัว อาจจะไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไรมากมาย แต่ถ้าที่บ้านมีเด็กเล็ก ๆ แล้วคุณต้องการเลี้ยง นอกจากจะดูแลเรื่องความสะอาดแล้ว สิ่งที่สำคัญคือ นิสัยใจคอของสุนัขที่นำมาเลี้ยง ถึงแม้ว่าสุนัขจะได้ชื่อว่ามีความซื่อสัตย์ รักเจ้าของ แต่บางสายพันธุ์ก็ยังมีสัญชาตญาณ และอุปนิสัยที่ดุร้าย เจ้าอารมณ์ ไม่รักเด็ก อยู่มาก ฉะนั้นการรู้จักอุปนิสัยของสายพันธุ์สุนัข จะเป็นตัวช่วยเลือกในการเลี้ยงและดูแลสุนัขได้เป็นอย่างดี

ตัวอย่างสายพันธุ์ที่เป็นมิตรกับเด็ก

       หลังอาน สุนัขพันธุ์ไทยแท้ มีนิสัยรักเจ้าของมาก ไม่ตื่นกลัว แข็งแรง ว่องไว ชอบเล่นกับเด็ก

       โกลเด้นรีทรีฟเวอร์ ลักษณะนิสัยสุขภาพ เป็นมิตรสงบเสงี่ยม ฉลาด สอนง่าย อดทน กระตือรือร้น ไม่เห่าเกินความจำเป็น ไม่ดุร้าย แต่ก็ไม่ขี้ขลาด

       ลาบราดอร์ รีทรีฟเวอร์ ฉลาด ใจดี เป็นมิตรสุภาพ ไม่ก้าวร้าวต่อคนและสุนัขด้วยกัน อยู่รวมเป็นฝูงได้ ชอบว่ายน้ำ ปรับตัวเข้ากับสิ่งแวดล้อมใหม่ได้ง่าย

       เซนต์เบอร์นาร์ด เป็นสุนัขที่มีขนาดใหญ่ที่สุด ฉลาด ร่าเริง ช่างประจบ สอนง่าย ชอบคนมาก เข้ากับเด็กได้ดี ได้ชื่อว่าเป็นสุนัขนักบุญ สุนัขพันธุ์นี้มีขนดกหนาแน่นมาก อาจไม่เหมาะกับอากาศร้อนมากนัก

       โดเบอร์แมน ถึงจะเป็นสุนัขพันธุ์ใหญ่ แต่ก็มีนิสัยสุภาพ แข็งแรง เป็นเพื่อนเล่นที่ดีของเด็ก

       ดัลเมเชียน สุนัขรักสนุก ขี้เล่น ค่อนข้างชน เป็นมิตร ขี้อ้อนชอบขอความรักจากเจ้าของ เป็นสุนัขที่มีความอ่อนไหว ติดเจ้าของ

       บลูเทอร์เรีย มีใจสู้ รักครอบครัว และอาณาเขต ดื้อรั้นบ้าง นิสัยเข้ากับเด็ก ๆ ได้ดี มีลักษณะปราดเปรียว คล่องแคล่ว ว่องไว มีไหวพริบและความฉลาดเป็นเลิศ ถ้าได้รับการฝึกจะยอมรับระเบียบได้เป็นอย่างดี

       ชิวาวา สุนัขเล็ก ที่มีความฉลาด ร่าเริง ตื่นตัวอยู่เสมอ เหมาะที่จะเลี้ยงเป็นเพื่อน ค่อนข้างติดเจ้าของ ไม่ทำลายของในบ้าน

       ปักกิ่ง สุนัขขนาดเล็กที่มีความเชื่อมั่นในตัวเอง มีความกล้าหาญ ไม่กลัวใคร พร้อมป้องกันตัวแต่ไม่ดุร้าย ซื่อสัตย์ ปกป้องทุกอย่างที่คิดว่าเป็นเจ้าของ รักสนุก ชอบเล่น ชอบอยู่ในพื้นที่ของตนเอง

       ชิสุ เหมาะเลี้ยงไว้ในบ้าน เพราะมีขนยาว เป็นสายพันธุ์ที่เข้ากับคนได้ดี เหมาะเป็นเพื่อน ขี้เล่น อ่อนโยน

       เชา เชา หน้าตาเหมือนสุนัขดู แต่ความจริงเป็นสุนัขอารมณ์ดี จงรักภักดี รักอิสระ แต่ก็เลือกที่จะเล่นกับเจ้าของและคนในครอบครัว เรียนรู้เร็ว

       ไซบีเรียน ฮัสกี้ สุภาพ เป็นมิตร อารมณ์ดี เข้ากับเด็กได้ ชอบเอาใจเจ้าของ แต่ต้องมีเวลาดูแลค่อนข้างมาก

       บ๊อกเซอร์ มีความอดทนสูง คอยปกป้องเด็ก ๆ รักสนุก ร่าเริง รักสงบ ไม่แสดงอารมณ์เสียง่าย ๆ ซื่อสัตย์มาก

       พุดเดิ้ล
ฉลาด ร่าเริง ช่างประจบประแจง ขี้อิจฉา สอนง่าย รักสะอาดเป็นมิตรกับคน

ตัวอย่างสายพันธุ์ที่อาจไม่เหมาะกับเด็ก

         ร็อตไวเลอร์ พัฒนาสายพันธุ์จากสุนัขที่ออกรบ จึงมีร่างกายที่กำยำแข็งแรง อดทน คุ้นกับการมีชีวิต นอกบ้าน ไม่ค่อยกลัว พร้อมต่อสู้ ต้องได้รับการฝึกตั้งแต่เล็ก และอยู่ในความดูแลเป็นพิเศษ

         บางแก้ว เป็นสุนัขพันธุ์ไทย มีถิ่นกำเนิดที่ตำบลบางแก้ว จ.พิษณุโลก เชื่อว่าเกิดจากการผสมพันธุ์ระหว่างสุนัขไทยกับสุนัขจิ้งจอก มีนิสัยค่อนข้างดุ แต่มีความซื่อสัตย์มากเป็นพิเศษ ไม่ชอบคนแปลกหน้า ตื่นตัวตลอดเวลา กล้าหาญ หวงของในบ้าน ถ้าคนภายนอกเข้ามาหยิบของอาจจะกัดไม่ปล่อย บางตัวอาจมีปัญหาด้านพฤติกรรม และอารมณ์ ต้องได้รับการฝึกที่ดี

         มินิเอเจอร์ พินเชอร์ ฉลาด ร่าเริง ตื่นตัวอยู่เสมอ กล้าหาญ ซื่อสัตย์ รักเจ้าของ ซน และตัวเล็กมาก

         ปาปิลอน มีความเป็นมิตร รักสะอาด ฉลาด แต่ต้องได้รับการดูแลมาก มีขนาดเล็ก อาจจะยังไม่เหมาะกับเด็กมากนัก ถ้าจะปล่อยให้อยู่ในความดูแลของเด็ก

         บลูด๊อก มีความทรหดอดทน อารมณ์คงที่มั่นคง อย่างเสมอต้นเสมอปลาย มีความตั้งใจแน่วแน่ กล้าหาญ พฤติกรรมที่แสดงออกเป็นไปอย่างสงบ แต่เป็นสุนัขที่ต้องได้รับการดูแลมาก เพราะมีลักษณะเฉพาะ อาจจะไม่เหมาะกับบ้านที่มีเด็กเล็ก

         ปอมเมอเรเนียน ตัวกะทัดรัด ฉลาด ร่าเริง ตื่นตัวอยู่เสมอ แต่ค่อนข้างตกใจง่าย เห่าเก่ง และเห่ามาก อาจจะไม่ค่อยเหมาะกับบ้านที่มีเด็กเล็กเท่าไหร่นัก

          ถึงแม้ว่าสุนัขที่คุณเลือกมา เป็นสัตว์เลี้ยงประจำบ้านจะมีสายพันธุ์ดี นิสัยเยี่ยมเท่าใด ก็ต้องมีการฝึก และให้ความรัก การดูแลอย่างเต็มที่ พร้อมกับบอกลูก ๆ ด้วยว่าควรจะให้ความรักแก่สัตว์เลี้ยง อย่างไรแล้วสุนัขก็จะเป็นเพื่อนที่คุณไว้ใจได้

ขอขอบคุณข้อมูลจาก
Mother & Care
How to มะขาม
เครดิตภาพ  https://www.pinterest.com/pin/747597606915784856/



 


Monday, November 27, 2017

10 ข้อดีอยากบอก ฉลองวาเลนไทน์กับหมามันดีอย่างนี้นี่เอง !




          สาวโสด หนุ่มไร้คู่ ไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับวันวาเลนไทน์ที่กำลังจะถึง เพราะน้องหมานี่แหละที่จะทำให้วาเลนไทน์ของคุณพิเศษไม่เหมือนใคร อยากรู้ว่าทำไมตามไปหาคำตอบพร้อม ๆ กันเลย

          วันวาเลนไทน์ วันที่คนมีคู่ออกไปเดทฉลองความหวาน ส่วนคนไม่มีคู่ อกหัก รักช้ำ ก็คงต้องนั่งหงอยเหงา มองดูคู่รักฉลองกัน แต่คนไม่มีคู่ไม่ต้องเศร้าเสียใจไป ไม่มีแฟนร่วมฉลองวันวาเลนไทน์ก็ไม่เห็นต้องง้อเลย เพราะน้องหมาของคุณนี่แหละจะทำให้วาเลนไทน์ของคุณไม่เปล่าเปลี่ยว โดดเดี่ยว และเหงาหงอยอีกต่อไป วันนี้กระปุกดอทคอมก็ได้นำ 10 เหตุผลที่พิสูจน์ว่าการฉลองวันแห่งความรักกับเจ้าตูบเป็นเรื่องที่ดีที่สุดแล้ว

1. ตัดกังวลเรื่องชุดออกเดท

          คิดดูสิหากคุณมีแฟนชวนไปดินเนอร์ ต้องเสียเงินซื้อชุดใหม่เท่าไร ไหนจะต้องมานั่งคิดเรื่องแต่งหน้าทำผมอีก เพราะอยากจะเอาใจคนพิเศษของตัวเอง แต่ถ้าหากเปลี่ยนเป็นพาหมาไปเที่ยว ไม่ว่าจะเดินเล่น ช้อปปิ้ง หรือดินเนอร์ที่บ้าน ไม่ต้องเตรียมตัวให้วุ่นวายเลย จะเสื้อผ้าหน้าผมแบบไหนน้องหมาก็รับแบบที่คุณเป็นคุณได้ แค่แต่งตัวสบาย ๆ ตามสไตล์ที่คุณชอบ จะใส่รองเท้าผ้าใบ ยีนส์ เสื้อยืด หรือเลือกชุดที่เหมาะกับการพาน้องหมาไปทำกิจกรรมนอกบ้าน ก็ไม่มีใครคอยบ่นให้เสียบรรยากาศวันดี ๆ แบบนี้แล้ว

2. ไม่ต้องเสียตังค์แพง ๆ ให้ร้านอาหาร

          หากสุนัขเป็นคู่เดทในวันวาเลนไทน์ จะไปเดินเล่นแค่ในสวนสาธารณะ ร้านอาหาร หรือต่อให้ชวนไปเดินขึ้นเขา ย่ำริมทะเล บุกป่าฝ่าดง เจ้าตูบก็พร้อมจะไปกับคุณทุกที่โดยไม่มีข้อต่อรอง เพราะแค่เจ้านายที่มันรักอยู่ข้าง ๆ จะอยู่ในบ้านหรือเที่ยวนอกบ้านเจ้าตูบก็ปลื้มทั้งนั้นแหละ ที่สำคัญไม่ต้องไปแย่งที่นั่งและเสียเงินมากมายไปกับร้านอาหารหรู ๆ ในวันวาเลนไทน์ด้วย

3. หมดปัญหาเรื่องเข้ากับเพื่อนไม่ได้

          คนมีคู่อาจกังวลว่าเขาหรือเธอคนนั้นจะเข้ากับเพื่อนของเราได้หรือเปล่า แต่คุณตัดความกังวลเรื่องนี้ไปได้เลย เพราะน้องหมาส่วนใหญ่ที่คุ้นเคยกับคน จะไม่บ่น สร้างปัญหา หรือขัดแย้งกับเพื่อนของคุณเลย อาจมีระแวงบ้างหากเจอกันครั้งแรก ที่สำคัญน้องหมาจะดีใจมากหากคุณชวนเพื่อน ๆ มาปาร์ตี้ที่บ้าน โดยเฉพาะเพื่อนที่เลี้ยงหมาเหมือนกัน เพราะนั่นหมายถึงว่าพวกมันจะมีเพื่อนเล่นเพิ่มขึ้นอีกไงล่ะ

4. ของขวัญจะถูกหรือแพง เจ้าตูบแฮปปี้เสมอ

          คุณอาจต้องปวดหัวคิดหลายตลบว่าของขวัญที่ซื้อมาให้แฟนจะถูกใจเขาหรือเธอหรือเปล่า แต่เจ้าตูบไม่แคร์หรอกนะว่าของขวัญที่คุณให้นั้นจะมีราคาแพง ราคาถูก ได้ใช้ หรือไม่ได้ใช้ เพราะแค่คุณแบ่งขนมหรืออาหารในมือให้มันสักชิ้น ของเล่นใหม่รับวาเลนไทน์ หรือแม้จะเป็นแค่ปลอกคอเส้นเล็ก ๆ แค่นี้เจ้าตูบก็สุขใจมากแล้ว

5. ส่งผลดีกับสุขภาพของคุณและคู่เดท

          ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อแล้วล่ะว่าการออกเดทหรือการพาน้องหมาไปเที่ยวส่งผลดีต่อร่างกายจริง ๆ มีงานวิจัยเผยว่าการใช้เวลากับสัตว์เลี้ยงมีประโยชน์มากกว่าที่คิด เพราะสามารถช่วยได้ทั้งลดความเครียดและลดปัญหาเรื่องความดันเลือด ซึ่งถือเป็นอีกหนึ่งเหตุผลสำคัญของการมีหมาเป็นคู่เดทในวันวาเลนไทน์

6. ไม่มีคนแย่งกินช็อกโกแลต

          ช็อกโกแลต อาจเป็นของโปรดของหลาย ๆ คน และรสชาติหวาน ๆ ของช็อกโกแลตก็ช่างเหมาะกับเทศกาลแห่งความรักเสียจริง ๆ ในวันวาเลนไทน์เลยมีแต่คนให้ช็อกโกแลตกันเต็มไปหมด ถ้าหากคุณมีแฟนอาจต้องแบ่งกันกินคนละครึ่ง แต่สำหรับน้องหมาไม่จำเป็นต้องทำแบบนั้นหรอก เพราะช็อกโกแลตถือเป็นขนมอันตรายที่ไม่ควรโยนให้น้องหมากินเด็ดขาด

7. เจ้าตูบรักโดยไม่มีเงื่อนไข

          หากจะคบใครสักคนอาจต้องดูปัจจัยหลาย ๆ อย่าง ทั้งเรื่องไลฟ์สไตล์ นิสัย และครอบครัว ต่อให้รักกันแค่ไหนแต่สุดท้ายก็ต้องจากกันอยู่ดีหากเข้ากันไม่ได้ แต่สำหรับน้องหมาสามารถมอบความรักให้กับคุณได้โดยไม่มีเงื่อนไขใด ๆ มาเกี่ยวข้อง ไม่ว่าคุณจะมีหน้าตายังไง ฐานะดีหรือไม่ นิสัยแย่แค่ไหน น้องหมาก็พร้อมที่จะให้ความรักกับคุณโดยไม่มีเงื่อนไขหรือประโยชน์ใด ๆ เข้ามาเกี่ยวข้อง

8. น้องหมาไม่เคยนอกใจ

          หมาเป็นสุนัขที่ขึ้นชื่อเรื่องความซื่อสัตย์กับเจ้าของเป็นอย่างมาก ฉะนั้นหากหมารักใครแล้วก็จะรักไปจนตาย แม้ว่าบางครั้งจะออกอาการดีใจเมื่อเจอสาวหน้าใหม่หรือมีคนเดินเข้ามาขอเล่นด้วย แต่เชื่อเถอะว่าต่อให้คนอื่นจะดีกับมันอย่างไร น้องหมาก็จะรักและซื่อสัตย์กับคุณเพียงคนเดียวเท่านั้น และไม่มีทางทำร้ายคุณเด็ดขาดด้วย

9. คุณจะดูดีขึ้นเมื่ออยู่กับน้องหมา

          เคยรู้สึกไหมว่าคนที่อยู่กับหมาจะโดดเด่นสะดุดตากว่าคนที่อยู่คนเดียวหรือเป็นกลุ่ม นั่นก็เป็นเพราะหมาเป็นสัตว์เลี้ยงขวัญใจของใคร ๆ หลายคน ใครเห็นก็ต่างมองอยากมาเล่นด้วยทั้งนั้น เผลอ ๆ คุณอาจจะได้เบอร์ของหนุ่มสาวรักหมาติดไม้ติดมือกลับบ้านมาด้วยก็ได้นะ อิอิ

          เห็นไหมล่ะคะว่าการไม่มีคู่เดทก็ไม่ได้แย่เสมอไป พาน้องหมาออกเดทวันวาเลนไทน์แทนก็ได้ ฉะนั้นใครที่ยังไม่มีคู่แต่ไม่อยากนั่งเหงา ๆ อยู่บ้านคนเดียวในช่วงเทศกาลแห่งความรัก จับน้องหมามาใส่สายจูงแล้วพากันออกไปเที่ยวดีกว่า

ขอขอบคุณข้อมูลจาก petfinder, petmd และ wellnesspetfood



Sunday, November 5, 2017

8 เหตุผล..ทำไมไม่ควรเลี้ยงหมานอกบ้าน ?



         สุนัขนั้นเป็นสัตว์สังคมที่ต้องการการมีเพื่อน และนี่จึงเป็นสาเหตุที่เจ้าตูบชอบใช้เวลาอยู่กับคุณและดีใจทุกครั้งเวลาที่คุณกลับมาบ้าน เพราะสุนัขเห็นว่าคุณคือส่วนหนึ่งของครอบครัวของมัน ดังนั้นวันนี้กระปุกดอทคอมจึงมี 8 เหตุผลว่าทำไมถึงไม่ควรเลี้ยงสุนัขไว้นอกบ้านตลอดเวลา และผลเสียที่ตามมาของการเลี้ยงเจ้าตูบนอกบ้านจะเป็นอย่างไร ลองไปทำความเข้าใจกันค่ะ

1. มีความสุขมากกว่าถ้าอยู่ในบ้าน

          การให้หมาอยู่ในบ้านจะทำให้มีความสุขมากกว่านอกบ้าน ถึงแม้ว่ามันชอบจะออกไปเล่นข้างนอกเป็นบางครั้งบางคราว แต่การให้น้องหมาอยู่ข้างนอกตลอดเวลาจะทำให้มันรู้สึกว่าขาดความอบอุ่น เพราะมันเองก็ต้องการใช้เวลาอยู่กับคุณมากกว่าใช้เวลาอยู่ตัวเดียวนอกบ้านอยู่แล้ว

2. อยู่นอกบ้านเสี่ยงอันตราย

          นอกบ้านมีอะไรมากมายที่จะหันเหความสนใจของเจ้าตูบ ไม่ว่าจะเป็นการไปขุดอะไรเล่นนอกบ้าน จนสกปรกและเป็นอันตราย และบางครั้งการที่มันอยู่นอกบ้านนาน ๆ แล้วเจอคนแปลกหน้าจะทำให้มันรู้สึกว่าไม่ปลอดภัย และอาจจะทำอันตรายต่อคนที่ผ่านไปผ่านมาได้เช่นกัน

3. ติดใจกับความอิสระ

          ไม่ควรปล่อยให้น้องหมาอยู่นอกบ้านนานเกินไป เพราะสำหรับบางตัวนั้นเมื่อใช้เวลาอยู่นอกบ้านเป็นเวลานาน ๆ ก็จะไม่อยากอยู่ในบ้านอีก และคอยจ้องแต่จะออกไปเที่ยวนอกบ้านตลอดเวลา ซึ่งคุณก็จะไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นบ้างเมื่อมันออกไปเที่ยวที่อื่น ดังนั้นควรจัดสรรการใช้เวลาอยู่นอกบ้านของน้องหมาให้ดี

4. ล่ามโซ่ไว้นอกบ้านไม่ใช่เรื่องดี

          คนเลี้ยงสุนัขหลายคนปล่อยสุนัขไว้นอกบ้านด้วยการล่ามโซ่ เพราะไม่อยากให้ไปเถลไถลที่ไหน แต่หารู้ไม่ว่านี่จะทำให้เป็นอันตรายถึงชีวิต เพราะน้องหมาเองก็ไม่อยากให้ใครมากักขังมันด้วยการล่ามโซ่ ดังนั้นเมื่อมันถูกล่ามโซ่เมื่อไร มันจะเริ่มดิ้นและโซ่อาจจะรัดคอจนถึงตายได้

5. วิ่งเล่นในกรงใหญ่ก็ได้

          ถ้าไม่มีบริเวณที่สามารถสร้างรั้วได้ และเจ้าของก็กลัวว่าถ้าปล่อยเจ้าตูบไว้นอกบ้านแล้วจะเถลไถลไปไหนไกล ก็ให้หากรงขนาดใหญ่ที่พอสำหรับวิ่งเล่นได้มาไว้ ทีนี้ก็ไม่ต้องกลัวว่าเจ้าตูบจะไปเที่ยวไหนไกล แถมยังได้ใช้เวลานอกบ้านกับการออกกำลังกายวิ่งเล่นในกรงขนาดใหญ่ ทั้งคุณและเจ้าตูบเองก็จะได้ใช้เวลาร่วมกันอย่างมีความสุข

6. เลี้ยงน้องหมานอกบ้านยากต่อการฝึก

          การเลี้ยงให้น้องหมาอยู่นอกบ้านบ่อย ๆ จะเป็นการยากต่อการฝึกสุนัขของคุณให้เชื่อง เพราะเมื่อน้องหมาใช้เวลานอกบ้านมากกว่าอยู่ในบ้านกับคุณ จะทำให้เจ้าตูบมีเวลาส่วนตัวและขาดปฏิสัมพันธ์กับตัวเจ้าของเอง จึงเป็นการยากที่จะฝึกให้น้องหมาทำตามคำสั่งเรา และน้องหมาจะมีพฤติกรรมที่เปลี่ยนไปเช่นเดียวกัน

7. มีพฤติกรรมที่ดุร้ายมากขึ้น

          การที่ปล่อยให้น้องหมาใช้เวลานอกบ้านนานเกินไป จะทำให้เจ้าตูบเองมีพฤติกรรมที่หวาดระแวงต่อสิ่งรอบตัว ทำให้เป็นสัตว์ที่ดุร้ายมากขึ้น เพราะน้องหมาไม่รู้จักการเข้าสังคม หรือเข้าหาเวลาที่เห็นคนแปลกหน้า จึงได้เกิดความกลัวและความระแวงเป็นเหตุทำให้มีพฤติกรรมที่ดุร้ายได้

8. เจ้าตูบจะคิดว่าไม่จำเป็นต้องปกป้องบ้านของตัวเอง

          ในเมื่อคุณปล่อยให้เจ้าตูบใช้ชีวิตนอกบ้าน มันก็จะสร้างพื้นที่ส่วนตัวที่คิดว่าควรป้องกันไม่ให้ใครมารุกราน ซึ่งแน่นอนเจ้าตูบจะไม่เห็นว่าบ้านที่มันอาศัยอยู่นั้นเป็นบ้านของมันเอง และไม่จำเป็นต้องปกป้องเมื่อมีคนแปลกหน้าหรือคนไม่รู้จักมาบ้านของคุณ ดังนั้นควรให้เจ้าตูบได้ใช้เวลาภายในบ้านมากขึ้นเพื่อให้มันรู้สึกว่านี่คือบ้านที่มันควรปกป้อง

          ไม่เพียงเท่านี้การเลี้ยงสุนัขนอกบ้านยังเป็นการทำให้คุณและเจ้าตูบขาดปฏิสัมพันธ์การใช้ชีวิตแล้วร่วมกัน เจ้าตูบเองก็จะคิดว่าคุณเป็นคนแปลกหน้าทำให้ไม่อยากอยู่บ้าน จึงต้องไปเถลไถลที่อื่นที่มันคิดว่าเป็นบ้านของมัน ถ้าคุณอยากมีความสุขกับน้องหมาของคุณไม่ควรละเลยสิ่งที่จำเป็นเหล่านี้นะคะ
                                                                                                                

Sunday, October 29, 2017

9 วิธีดูแลหมา-แมวรับปีใหม่ ฉลองอย่างไรให้สัตว์เลี้ยงมีสุข


        ฉลองปีใหม่กับเจ้าตูบและเจ้าเหมียวด้วยของขวัญสุดพิเศษกับ 9 วิธีดูแลสัตว์เลี้ยง ให้เจ้าตูบและเหมียวแข็งแรงต้อนรับปีใหม่และอยู่กับเราไปนาน ๆ

        ปีใหม่นี้ถ้าใครยังไม่มีของขวัญให้ให้สัตว์เลี้ยงที่บ้าน อยากจะบอกว่าไม่ต้องหาซื้อให้ยุ่งยากเลย นอกเหนือจากจากขนมและของเล่นแล้วคุณยังสามารถให้ของขวัญอย่างอื่นกับพวกมันได้ อย่างเช่น ใช้เวลาอยู่กับน้องเหมียวมากขึ้น หรืออาจจะพาเจ้าตูบไปเดินเล่นบ่อยขึ้น และวันนี้กะปุกดอทคอมก็มี 9 วิธีดูแลน้องหมาและน้องแมวมาฝากกัน ถือซะว่าเป็นเป็นการให้ของขวัญชิ้นพิเศษสำหรับเจ้าตูบและเจ้าเหมียว

1. พาไปตรวจสุขภาพประจำปี

        ไม่ใช่มีแต่คนเท่านั้นนะที่ต้องไปตรวจสุขภาพประจำปี หากที่บ้านมีน้องหมาน้องแมวอยู่ ก็อย่าลืมพาพวกเขาไปตรวจสุขภาพประจำปีด้วยนะคะ เพราะนอกจากจะได้เช็กความแข็งแรงของร่างกายแล้ว ยังทำให้รู้ล่วงหน้าอีกด้วยว่าสัตว์เลี้ยงของเราเสี่ยงต่อการเป็นโรคอะไรบ้าง แล้วในฐานะที่เราเป็นเจ้าของควรจะระมัดระวังเรื่องอะไรบ้าง มีอะไรบ้างที่ทำได้และมีอะไรบ้างที่ทำไม่ได้ เพราะโรคบางอย่างไม่มีอาการเตือนใด ๆ ถ้ามีอาการปุ๊บอาจหมายถึงชีวิตเลยก็ได้ เช่น โรคมะเร็ง ฉะนั้นปีใหม่นี้หากจะหาของขวัญให้สัตว์เลี้ยงสัตว์อย่าง พาพวกเขาไปตรวจสุขภาพประจำปีก็น่าจะเป็นไอเดียที่ดีมากทีเดียวค่ะ


2. ให้อาหารที่มีประโยชน์

        ของอ้วน ๆ มักจะอร่อยกว่าของที่มีประโยชน์เสมอ ซึ่งหมา-แมวเองก็คงเบื่อหากต้องกินอะไรซ้ำ ๆ เดิม ๆ ทุกวัน ฉะนั้นสำหรับเจ้าของที่อยากหาอะไรอร่อย ๆ ให้พวกเขาทาน เช็กส่วนผสมสักหน่อยว่ามีส่วนประกอบของอาหารที่เป็นอันตรายหรือเปล่า แล้วควรให้กินในปริมาณเท่าไรถึงจะพอดี แม้จะเป็นของอร่อยที่พวกเขาชอบกินมาก ก็อย่าใจอ่อนเพราะเจ้าตัวน้อยส่งสายตาปิ๊ง ๆ เพื่อขอขนมเพิ่มเชียว ทำใจแข็งเข้าไว้หรือคิดถึงสุขภาพของพวกเขาให้มาก ๆ จะได้อยู่กับเราไปนาน ๆ เพราะหากปล่อยให้กินตามใจปากเยอะ ๆ แล้วมาป่วยทีหลัง เป็นสิ่งที่ไม่คุ้มค่าแน่ ๆ เช่น เสี่ยงต่อการเป็นโรคเบาหวานหรือไขข้ออักเสบ

        ส่วนอาหารหลักก็ควรให้ที่เหมาะสมกับวัยและชนิดของสัตว์เลี้ยงด้วย ซึ่งตอนนี้อาหารสัตว์ก็มีบอกไว้ในฉลากอยู่แล้ว โดยข้อดีของการให้อาหารสำเร็จรูปก็คือส่วนใหญ่มีสารอาหารครบถ้วนในปริมาณที่พอเหมาะกับร่างกายของหมากับแมวอยู่แล้ว หากไม่มั่นใจก่อนซื้อควรปรึกษาสัตวแพทย์ก่อนสักนิด สัตว์เลี้ยงจะได้มีสุขภาพแข็งแรงและอยู่กับเราไปนาน ๆ

3. ป้องกันสัตว์เลี้ยงสูดควันบุหรี่

        ควันบุหรี่ไม่ได้เป็นอันตรายกับคนเท่านั้น แต่ยังเป็นอันตรายกับน้องหมาและน้องแมวด้วย เพราะจะทำให้ระบบทางเดินหายใจของพวกเขามีปัญหาหลังสูดควันเข้าไป อีกทั้งยังเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้เกิดโรคมะเร็ง เมื่อเผลอเลียนขนที่มีควันบุหรี่ติดอยู่ด้วย หากรักกันจริงปีใหม่นี้ลองเลิกสูบบุหรี่เพื่อตัวเอง คนที่รัก และสัตว์เลี้ยงตัวน้อย ๆ ในบ้านดูนะคะ


4. ให้เวลากับสัตว์เลี้ยงมากขึ้น

        หากก่อนหน้านี้แทบไม่มีเวลาให้กับสัตว์เลี้ยงเลยหรือมีเวลาให้แค่ตอนที่คุณไม่มีใครเท่านั้น ลองคิดดูสิว่าตอนนี้พวกเขาอยู่บ้านตัวเดียวมันเหงาขนาดไหน ปีใหม่นี้ลองลดกิจกรรมอื่น ๆ ในชีวิตแล้วเพิ่มเวลาดูแลสัตว์เลี้ยงให้มากขึ้น เช่น หลังเลิกงานถ้าวันไหนไม่มีธุระเร่งด่วนก็รีบกลับบ้านมาพาพวกเขาออกไปเดินเล่น ออกกำลังกาย หรือเปลี่ยนสถานที่เที่ยวบ้างช่วงเสาร์-อาทิตย์ วิธีนี้ไม่เพียงแต่จะทำให้สัตว์เลี้ยงมีความสุขอย่างเดียว แต่คุณอาจจะได้พบปะ พูดคุย แลกเปลี่ยนประสบการณ์ และมีเพื่อนใหม่ ๆ จากกลุ่มคนที่เลี้ยงสัตว์ชนิดเดียวกันด้วย


5. อย่ามองข้ามเรื่องการออกกำลังกาย

        ทุกวันนี้พบว่าสัตว์เลี้ยงเป็นโรคอ้วนกันมากขึ้น ซึ่งสาเหตุหลักเลยก็คือออกกำลังกายน้อยเกินไปหรือเจ้าของไม่ได้พาไปออกกำลังกายเลย และตอนนี้ก็มีหมา 53% กับแมวอีก 55% ที่เป็นโรคนี้ หากเป็นแล้วก็จะมีโรคข้างเคียงตามมาอีกมากมาย ทั้งโรคเบาหวาน ไขมันอุดตันในเส้นเลือด โรคความดัน ฯลฯ ดังนั้นเจ้าของควรพาสัตว์เลี้ยงไปออกกำลังกายด้วยตามความเหมาะสมกับอายุ เพศ และสายพันธุ์


6. หมั่นดูแลความสะอาดของร่างกาย

        แม้แมวจะทำความสะอาดตัวเองได้ แต่เจ้าของอย่างเราก็ควรช่วยดูแลความสะอาดไปพร้อมกันด้วย เช่น หมั่นตัดเล็บให้มีความยาวที่พอเหมาะ สามารถเดินได้สะดวกและยังใช้ป้องกันตัวเองได้ ไม่ตัดจนสั้นกุดหรือปล่อยยาวจนเดินลำบาก สำหรับน้องหมาหากมีเวลาควรอาบน้ำให้พวกเขาสัปดาห์ละครั้งและเช็ดขนให้แห้งทันทีหลังอาบน้ำเสร็จเพื่อป้องกันโรคปวดบวม นอกจากนี้ควรหมั่นแปรงฟันให้สะอาดอยู่เสมอ โดยใช้ยาสีฟันที่ระบุว่าใช้สำหรับสัตว์เลี้ยง เพราะยาสีฟันมีส่วนผสมของฟลูออไรด์ในปริมาณที่เป็นพิษกับน้องหมาที่อาจทำให้เสียชีวิตได้เลย

        ข้อแนะนำสำหรับการแปรงฟันให้น้องหมาก็คือ ในช่วงแรกหากมีอาการขัดขืนให้ใช้ผ้าชุบน้ำขัดฟันไปก่อน เริ่มจากฟันด้านในแล้วค่อยขยับมาแปรงฟันหน้า ทำเช่นนี้ไปเรื่อย ๆ ประมาณ 1 สัปดาห์แล้วค่อยเปลี่ยนมาใช้แปรงสีฟัน

7. หากิจกรรมให้ทำเวลาว่าง

        รู้หรือไม่ว่าน้องหมาก็สามารถทำประโยชน์ให้กับสังคมได้ โดยเฉพาะหมาที่เป็นมิตร เข้ากับคนได้ง่าย และปรับตัวเก่งเมื่อเจอสิ่งแวดล้อมใหม่ ๆ นั่นเป็นสัญญาณว่าน้องหมาอาจเป็นหมาบำบัดที่ดีได้ เช่น สุนัขพยาบาลบำบัดผู้ป่วยโรคต่าง ๆ ที่บ้านหรือตามโรงพยาบาล หรือช่วยฝึกทักษะการอ่านของเด็ก ๆ เป็นต้น


8. พาเข้าสังคมใหม่ ๆ

        น้องหมาน้องแมวอาจจะเข้ากับเจ้าของได้ดีก็จริง แต่อาจจะเกิดความกลัวเมื่อเจอคนแปลกหน้าหรือสัตว์ตัวอื่น ๆ และอาจเกิดการทำร้ายได้เพื่อป้องกันตัว ฉะนั้นควรฝึกให้น้องหมาน้องแมวได้พบปะกับคนและสัตว์เลี้ยงตัวอื่น ๆ ด้วย

9. ทำประกันสัตว์เลี้ยง

        อุบัติเหตุสามารถเกิดขึ้นได้ทุกเวลาไม่เว้นแม้กระทั่งกับสัตว์เลี้ยง ฉะนั้นจึงควรจะทำประกันให้กับพวกเขาด้วย ส่วนหลักการเลือกซื้อประกันคือ ให้เลือกประกันที่ครอบคลุมทั้งการประกันอุบัติเหตุ สุขภาพและการรักษาพยาบาลโรคทั่วไป

        อย่างไรก็ตามการเลี้ยงสัตว์นั้นไม่ใช่แค่การเอาใจใส่ในด้านใดด้านหนึ่ง ควรดูแลพวกมันทั้งในด้านจิตใจและสุขภาพเจ้าตูบและเจ้าเหมียวจะได้อยู่กับเราไปนาน ๆ ปีใหม่นี้ก็อย่าลืมหันมาดูแลสัตว์เลี้ยงกันให้มากขึ้นนะคะ

เครดิตภาพ  https://www.pinterest.com/pin/28358672649329245/

Wednesday, October 25, 2017

ข้อควรจำและเคล็ดลับ สำหรับเจ้าของ สุนัข ที่อ้วน


ข้อควรจำและเคล็ดลับสำหรับเจ้าของสุนัขที่อ้วน (Dogazine)
โดย สพ.ญ.พรวดี ยังสุขสถาพร

          เจ้าของควรจำไว้เสมอว่า ความอ้วนนั้นจัดเป็นโรคชนิดหนึ่ง ที่จำเป็นต้องได้รับการรักษา

          ส่วนสำคัญที่สุดในการลดน้ำหนักให้กับสุนัข ก็คือ เจ้าของกว่า 50% ของสุนัขอ้วนลดน้ำหนักไม่สำเร็จ เพราะเจ้าของบางคนเห็นสุนัขมาขออาหารหรือขนมก็อดให้ไม่ได้ จึงทำให้การลดน้ำหนักไม่สำเร็จ

          การลดน้ำหนักไม่ใช่การลดปริมาณอาหาร แต่เป็นการลดพลังงานและไขมันที่ได้จากอาหาร

          ขนมสุนัขที่ให้พลังงาน และอาจมีส่วนทำให้อ้วน ดังนั้น เมื่อสุนัขเริ่มโปรแกรมลดน้ำหนัก เจ้าของต้องแจ้งสัตวแพทย์ด้วยว่าปกติให้ขนมสุนัขอะไรบ้าง ให้มากน้อยแค่ไหน

          เจ้าของต้องแจ้งให้กับทุกคนในบ้านทราบด้วยว่า สุนัขของตนกำลังเริ่มโปรแกรมลดน้ำหนัก และแจ้งถึงข้อควรปฏิบัติแก่ทุกคนในบ้าน

          อย่าใจร้อน ดังที่กล่าวมาแล้วว่า การลดน้ำหนักที่ดีต้องไม่เร็วเกินไป ถ้าลดลงเร็วเกินไปอาจทำให้สุนัขสุขภาพทรุดโทรมได้

          สังเกตว่าสุนัขมีอาการหิว หรือรู้สึกไม่อิ่มหรือไม่ หลังจากเปลี่ยนมาเป็นอาหารที่ใช้ในช่วงลดน้ำหนัก ถ้ามีอาการหิวตลอดเวลา ควรกลับไปแจ้งให้สัตวแพทย์ที่ทำการรักษาหรือให้คำแนะนำทราบ และปรับปริมาณหรือเปลี่ยนชนิดอาหารที่ให้กิน อาจใช้วิธีคำนวณปริมาณอาหารทั้งหมดที่ต้องให้ต่อวัน แล้วแบ่งให้วันละ 3-4 มื้อก็ได้

          ถ้าสุนัขไม่ยอมกินอาหารลดน้ำหนัก อาจเริ่มจากให้อาหารเดิมผสมกับอาหารลดน้ำหนัก แล้วค่อย ๆ ลดอาหารเดิมลงไปเรื่อย ๆ จนสุดท้ายเป็นอาหารลดน้ำหนักอย่างเดียว

          ถ้าเลี้ยงสุนัขหลายตัวในบ้าน จำเป็นต้องแยกชามอาหารของสุนัขที่อ้วนออกมาต่างหาก และต้องกันไม่ให้สุนัขไปแอบกินอาหารของตัวอื่นด้วย

          การป้องกันโรคอ้วนในสุนัขนั้น เจ้าของต้องคอยหมั่นสังเกตสุนัข ถ้ารู้สึกว่าสุนัขเริ่มมีน้ำหนักตัวมากขึ้น ควรไปพบสัตวแพทย์เพื่อขอคำแนะนำ และเริ่มการควบคุมน้ำหนัก

ขอขอบคุณข้อมูลจาก
ขอขอบคุณข้อมูลจาก
โดย สพ.ญ.พรวดี ยังสุขสถาพร

Monday, October 23, 2017

เคล็ดลับเพิ่มทักษะให้สุนัข ทั้งฉลาดและแสนรู้




          เจ้าของหลายคนคงจะรู้วิธีการฝึกสุนัขกันดีอยู่แล้ว อย่างเช่น จำชื่อตัวเอง กินข้าว การขับถ่าย และทำตามคำสั่งง่าย ๆ เป็นต้น แต่การฝึกเบื้องต้นแบบนี้ อาจจะน้อยไป เนื่องจากสุนัขก็เหมือนกับเด็กที่ต้องฝึกทักษะใหม่ ๆ อยู่เสมอเพื่อให้สุนัขมีพฤติกรรมและแสดงออกอย่างเหมาะสมตามการเจริญเติบโตของร่างกาย ตั้งแต่วัยเด็ก วัยรุ่น ไปจนถึงวัยเจริญพันธุ์

          การฝึกทักษะใหม่ ๆ นั้น ไม่ใช่แค่การเริ่มต้นเรียนรู้ประสบการณ์ใหม่ เพียงอย่างเดียว แต่รวมไปถึงการฝึกฝนทักษะที่มีความซับซ้อนและยากกว่าการฝึกให้ ทำตามคำสั่งทั่วไป แต่ทั้งนี้หากสุนัขไม่สามารถทำอย่างที่คุณต้องการได้ ควรจะให้เวลา และหลีกเลี่ยงการลงโทษ หรือดุด่า เนื่องจากพฤติกรรมเหล่านี้อาจทำให้สุนัขเกิดความสับสน ไม่มีความสุข หรือมีพฤติกรรมที่ไม่พึงประสงค์มากขึ้น

          โดยเริ่มจากเปลี่ยนวิธีให้อาหาร จากเดิมที่เคยเทอาหารใส่จานข้าวแบบธรรมดา นำของเล่นมาใช้ให้เกิดประโยชน์ อย่างเช่น การนำอาหารใส่ลงไปในของเล่นที่ต้องกัด แกะ ฉีก หรือนำขนมไปซ่อนเอาไว้ตามจุดต่าง ๆ ของบ้าน ส่วนอีกวิธีหนึ่งก็คือ ใส่อาหารลงไปในถาดหลุม แล้วนำของเล่นหรือลูกบอลปิดปากหลุมเอาไว้ จากนั้นปล่อยให้สุนัขแก้ไขปัญหาเอง หลังจากที่สุนัขเคยชินแล้ว ก็เปลี่ยนชนิดของของเล่นกับตำแหน่งที่ซ่อนอาหารไปเรื่อย ๆ

          เจ้าของหลายคนคงจะรู้วิธีการฝึกสุนัขกันดีอยู่แล้ว อย่างเช่น จำชื่อตัวเอง กินข้าว การขับถ่าย และทำตามคำสั่งง่าย ๆ เป็นต้น แต่การฝึกเบื้องต้นแบบนี้ อาจจะน้อยไป เนื่องจากสุนัขก็เหมือนกับเด็กที่ต้องฝึกทักษะใหม่ ๆ อยู่เสมอเพื่อให้สุนัขมีพฤติกรรมและแสดงออกอย่างเหมาะสมตามการเจริญเติบโตของร่างกาย ตั้งแต่วัยเด็ก วัยรุ่น ไปจนถึงวัยเจริญพันธุ์

          การฝึกทักษะใหม่ ๆ นั้น ไม่ใช่แค่การเริ่มต้นเรียนรู้ประสบการณ์ใหม่ เพียงอย่างเดียว แต่รวมไปถึงการฝึกฝนทักษะที่มีความซับซ้อนและยากกว่าการฝึกให้ ทำตามคำสั่งทั่วไป แต่ทั้งนี้หากสุนัขไม่สามารถทำอย่างที่คุณต้องการได้ ควรจะให้เวลา และหลีกเลี่ยงการลงโทษ หรือดุด่า เนื่องจากพฤติกรรมเหล่านี้อาจทำให้สุนัขเกิดความสับสน ไม่มีความสุข หรือมีพฤติกรรมที่ไม่พึงประสงค์มากขึ้น

          โดยเริ่มจากเปลี่ยนวิธีให้อาหาร จากเดิมที่เคยเทอาหารใส่จานข้าวแบบธรรมดา นำของเล่นมาใช้ให้เกิดประโยชน์ อย่างเช่น การนำอาหารใส่ลงไปในของเล่นที่ต้องกัด แกะ ฉีก หรือนำขนมไปซ่อนเอาไว้ตามจุดต่าง ๆ ของบ้าน ส่วนอีกวิธีหนึ่งก็คือ ใส่อาหารลงไปในถาดหลุม แล้วนำของเล่นหรือลูกบอลปิดปากหลุมเอาไว้ จากนั้นปล่อยให้สุนัขแก้ไขปัญหาเอง หลังจากที่สุนัขเคยชินแล้ว ก็เปลี่ยนชนิดของของเล่นกับตำแหน่งที่ซ่อนอาหารไปเรื่อย ๆ

เครดิตภาพ  https://www.pinterest.com/pin/136796907406250867/