หากเจอว่าสุนัขค่าตับสูงคงทำให้เจ้าของรู้สึกกังวลกันมากใช่ไหมล่ะคะ อยากรู้ว่าจะเป็นโรคร้ายอะไรหรือเปล่า วันนี้เลยนำข้อมูลเกี่ยวกับค่าตับสุนัขมาฝากกัน ตั้งแต่ค่าตับ คืออะไร แล้วลักษณะอาการแบบไหน ที่จะบอกได้ว่าสุนัขของเรานั้นมีค่าตับสูง หากตรวจเจอแล้วจะเสี่ยงเป็นอันตรายร้ายแรงหรือไม่ แล้วต่อจากนี้มีวิธีการดูแลสุนัขของเราอย่างไรกันดี
ค่าตับ คืออะไร
ค่าตับ (Liver Enzymes) คือ ค่าการทำงานของตับ มีด้วยกันหลากหลายชนิด สามารถวัดได้จากการตรวจเลือด ซึ่งถ้าหากพบว่าค่าตับสูง ก็จะบ่งบอกว่าร่างกายกำลังงอยู่ในภาวะอันตรายและอาการเสื่ยงต่อโรคหลาย ๆ อย่าง ซึ่งแตกต่างกันไปตามชนิดของค่าตับ ดังนี้
1. AST
AST (Aspartate Transaminase) หรือเดิมเรียกว่า SGOT (Serum Glutamic Oxaloacetic Transaminase) เป็นเอนไซม์ที่สามารถพบได้ทั้งในตับ ตับอ่อน น้ำดี กล้ามเนื้อ หัวใจ และเซลล์เม็ดเลือดแดง หากตรวจพบว่าสุนัขมีค่าชนิดนี้สูงเกินกว่าปกติ สัตวแพทย์ก็จะทำการตรวจเช็กซ้ำให้แน่ใจอีกครั้งว่าเกิดจากสาเหตุอะไร หรือมีความผิดปกติที่ตรงไหน ซึ่งตามปกติแล้วเอนไซม์ตัวนี้จะมีอยู่ในเลือดค่อนข้างน้อย ดังนั้นเพื่อการวินิจฉัยที่ถูกต้องและละเอียดมากยิ่งขึ้น สัตวแพทย์จึงต้องทำตรวจและดูค่าเอนไซม์ ALT คู่กันไปด้วย
2. ALT หรือ SGPT
ALT (Alanine Aminotransferase) หรือเดิมทีเรียกว่า SGPT (Serum Glutamic Pyruvic Transaminase) เป็นเอนไซม์ที่สามารถพบได้ทั้งในตับ ไต และระบบทางเดินอาหาร ดังนั้นหากตับทำงานผิดปกติ อาจไม่ได้เป็นเพราะค่าเอนไซม์ ALT สูงขึ้นเสมอไป
3. ALP
ALP (Alkaline Phosphatase) เป็นค่าเอนไซม์ที่สามารถพบได้ทั้งในตับ ไต ลำไส้ กระดูก และรก (กรณีที่สุนัขตั้งครรภ์) ซึ่งเอนไซม์ตัวนี้อาจมีค่าสูงขึ้นได้ในสุนัขทุกวัย แต่อย่างไรก็ตามควนสอบถามสัตวแพทย์เพื่อหาสาเหตุอีกครั้ง
4. GGT
GGT (Gamma glutamyl transferase) เป็นค่าที่ช่วยในการวินิจฉัยเกี่ยวกับโรคตับได้มากที่สุด เพราะเป็นค่าตับที่สื่อถึงโรคตับโดยตรง แต่ส่วนใหญ่แล้วสัตวแพทย์จะไม่ค่อยตรวจค่าชนิดนี้สักเท่าไร ฉะนั้นหากใครอยากตรวจเช็กให้แน่ใจ ก็อย่าลืมแจ้งให้สัตวแพทย์ทราบด้วย
อาการของสุนัขที่มีค่าตับสูง
ค่าตับสูงจะเกิดขึ้นได้จากหลากหลายสาเหตุ ซึ่งเจ้าของสุนัขสามารถสังเกตความผิดปกติได้จากอาการต่อไปนี้
ค่าตับสูงจะเกิดขึ้นได้จากหลากหลายสาเหตุ ซึ่งเจ้าของสุนัขสามารถสังเกตความผิดปกติได้จากอาการต่อไปนี้
- คลื่นไส้อาเจียน
- ท้องเสีย
- เบื่ออาหาร
- น้ำหนักลด
- เซื่อมซึม
- อ่อนแรง
- ไม่กระฉับกระเฉง
- เลือดออกง่ายและมากผิดปกติ
นอกจากนี้สุนัขบางตัวอาจมีอาการนอนไม่หลับร่วมด้วย ทว่าอย่างไรเจ้าของก็ต้องหมั่นสังเกตและแยกแยะความผิดปกติของสุนัขให้ได้ เพราะบางครั้งอาการอาเจียนอาจเกิดจากการติดเชื้อในระบบทางเดินอาหาร หรือสุนัขอาจจะเบื่ออาหารเนื่องจากเครียดและสภาพแวดล้อมก็ได้
ค่าตับสูงเสี่ยงเป็นโรคอะไรบ้าง
นอกจากนี้สุนัขบางตัวอาจมีอาการนอนไม่หลับร่วมด้วย ทว่าอย่างไรเจ้าของก็ต้องหมั่นสังเกตและแยกแยะความผิดปกติของสุนัขให้ได้ เพราะบางครั้งอาการอาเจียนอาจเกิดจากการติดเชื้อในระบบทางเดินอาหาร หรือสุนัขอาจจะเบื่ออาหารเนื่องจากเครียดและสภาพแวดล้อมก็ได้
ค่าตับสูงเสี่ยงเป็นโรคอะไรบ้าง
สุนัขที่มีค่าตับสูงสามารถเสี่ยงเป็นโรคต่าง ๆ ได้มากมายขึ้นอยู่กับสาเหตุที่เกิดและชนิดของค่าตับที่สูง โดยถ้าหากสุนัขมีค่า GGT สูง ก็มีความเสี่ยงที่จะเป็นโรคดีซ่าน โรคมะเร็ง และโรคตับอ่อนอักเสบได้ ส่วนสุนัขมีค่า GGT และค่า ALP สูงร่วมกัน ก็มีความเสี่ยงที่จะเป็นโรคตับและระบบทางเดินน้ำดีได้นั่นเอง ส่วนสำหรับสุนัขที่มีค่า ALP สูง แต่ค่า GGT กลับไม่สูง จะมีความเสี่ยงที่จะเป็นโรคกระดูกได้ และสุดท้ายสำหรับสุนัขมีค่า ALT สูงเพียงอย่างเดียว ก็มีความเสี่ยงที่จะเป็นโรคคุชชิงได้นั่นเอง อ้อ นอกจากความเสี่ยงในการเป็นโรคดังกล่าวแล้ว สุนัขที่มีค่าตับสูงยังสามารถเสี่ยงเป็นโรคไวรัสตับอักเสบได้ด้วยเช่นเดียวกัน ฉะนั้นเพื่อความปลอดภัยของสุนัขที่คุณรัก ถ้าหากพบอาการผิดปกติ ก็ควรรีบพาไปตรวจไว้ตั้งแต่เนิ่น ๆ นะคะ
วิธีดูแลสุนัขที่มีค่าตับสูง
นอกเหนือจากการให้ยาและการรักษาตามโรคที่วินิจฉัยแล้ว สัตวแพทย์มักจะแนะนำให้ผู้เลี้ยงควบคุมและดูแลอาหารของสุนัขให้สอดคล้องกันไปเพื่อช่วยในการฟื้นฟูและลดค่าตับลงด้วย ซึ่งอาหารที่สุนัขที่มีค่าตับสูงควรกินและไม่ควรกิน ได้แก่
1. สุนัขที่มีค่าตับสูงควรกินอาหารที่มีค่าโซเดียมต่ำ เพื่อช่วยลดความเสี่ยงโรคท้องมานหรือท้องบวมจากอาการความดันเลือดในตับสูง
2. สุนัขที่มีค่าตับสูงควรได้รับปริมาณโปรตีนให้เพียงพอต่อความต้องการในแต่ละวัน โดยที่สำคัญเจ้าของต้องเลือกเป็นโปรตีนที่มีคุณภาพสูง เช่น นม ถั่วเหลือง เต้าหู้ โยเกิร์ต และชีสที่ไม่มีไขมัน เพราะโปรตีนเหล่านี้ช่วยเสริมสร้างให้เนื้อเยื่อตับแข็งแรงมากยิ่งขึ้น ช่วยให้ตับต่อสู้กับการติดเชื้อได้ดี และที่สำคัญโปรตีนที่มีคุณภาพสูงจะย่อยได้ง่ายกว่าโปรตีนที่มีคุณภาพต่ำนั่นเอง
3. สุนัขที่มีค่าตับสูงควรกินผัก เช่น ผักโขม บรอกโคลี ถั่ว และถั่วลันเตาเยอะ ๆ เนื่องจากผักเป็นแหล่งวิตามินและโปรตีนชั้นดี อีกทั้งไฟเบอร์ในผักยังช่วยขจัดสารพิษในระบบต่าง ๆ ของสุนัขได้ด้วย
4. สุนัขที่มีค่าตับสูงควรกินคาร์โบไฮเดรตที่มีคุณภาพสูง เช่น ข้าวสีน้ำตาล โอ๊ตมีล ถั่วแดงหลวง และมันฝรั่ง เพราะเป็นคาร์โบไฮเดรตที่ย่อยง่าย
5. สุนัขที่มีค่าตับสูงควรได้รับอาหารเสริม เช่น มิลค์ ทิสเซิล (Milk thistle) ซึ่งมีหน้าที่สำคัญสองอย่าง คือ ช่วยฟื้นฟูเซลล์ตับ และช่วยให้ตับแข็งแรงด้วยการขับสารพิษ โดยปริมาณที่มักนำมาใช้ ได้แก่ 200 มิลลิกรัม/2-3 วัน ซึ่งมิลค์ ทิสเซิลอาจจะนำมาแปรรูปเป็นแคปซูลหรือของเหลวเพื่อให้กินง่ายขึ้นก็ได้
6. สุนัขที่มีค่าตับสูงควรลดปริมาณไขมันและโปรตีนที่มีคุณภาพต่ำให้น้อยลง เพราะโปรตีนและไขมันเป็นตัวการสำคัญที่ทำให้ตับต้องทำงานหนักขึ้น
สุนัขที่มีค่าตับสูงสามารถเสี่ยงเป็นโรคร้ายได้หลายโรคเลยทีเดียว ฉะนั้นถ้าไม่อยากให้เจ้าตูบที่คุณรักต้องป่วย อย่าลืมสังเกตอาการและพาไปตรวจร่างกายอย่างสม่ำเสมอนะคะ
ขอขอบคุณข้อมูลจาก dogsnaturallymagazine, dogappy และ haamor
1. สุนัขที่มีค่าตับสูงควรกินอาหารที่มีค่าโซเดียมต่ำ เพื่อช่วยลดความเสี่ยงโรคท้องมานหรือท้องบวมจากอาการความดันเลือดในตับสูง
2. สุนัขที่มีค่าตับสูงควรได้รับปริมาณโปรตีนให้เพียงพอต่อความต้องการในแต่ละวัน โดยที่สำคัญเจ้าของต้องเลือกเป็นโปรตีนที่มีคุณภาพสูง เช่น นม ถั่วเหลือง เต้าหู้ โยเกิร์ต และชีสที่ไม่มีไขมัน เพราะโปรตีนเหล่านี้ช่วยเสริมสร้างให้เนื้อเยื่อตับแข็งแรงมากยิ่งขึ้น ช่วยให้ตับต่อสู้กับการติดเชื้อได้ดี และที่สำคัญโปรตีนที่มีคุณภาพสูงจะย่อยได้ง่ายกว่าโปรตีนที่มีคุณภาพต่ำนั่นเอง
3. สุนัขที่มีค่าตับสูงควรกินผัก เช่น ผักโขม บรอกโคลี ถั่ว และถั่วลันเตาเยอะ ๆ เนื่องจากผักเป็นแหล่งวิตามินและโปรตีนชั้นดี อีกทั้งไฟเบอร์ในผักยังช่วยขจัดสารพิษในระบบต่าง ๆ ของสุนัขได้ด้วย
4. สุนัขที่มีค่าตับสูงควรกินคาร์โบไฮเดรตที่มีคุณภาพสูง เช่น ข้าวสีน้ำตาล โอ๊ตมีล ถั่วแดงหลวง และมันฝรั่ง เพราะเป็นคาร์โบไฮเดรตที่ย่อยง่าย
5. สุนัขที่มีค่าตับสูงควรได้รับอาหารเสริม เช่น มิลค์ ทิสเซิล (Milk thistle) ซึ่งมีหน้าที่สำคัญสองอย่าง คือ ช่วยฟื้นฟูเซลล์ตับ และช่วยให้ตับแข็งแรงด้วยการขับสารพิษ โดยปริมาณที่มักนำมาใช้ ได้แก่ 200 มิลลิกรัม/2-3 วัน ซึ่งมิลค์ ทิสเซิลอาจจะนำมาแปรรูปเป็นแคปซูลหรือของเหลวเพื่อให้กินง่ายขึ้นก็ได้
6. สุนัขที่มีค่าตับสูงควรลดปริมาณไขมันและโปรตีนที่มีคุณภาพต่ำให้น้อยลง เพราะโปรตีนและไขมันเป็นตัวการสำคัญที่ทำให้ตับต้องทำงานหนักขึ้น
สุนัขที่มีค่าตับสูงสามารถเสี่ยงเป็นโรคร้ายได้หลายโรคเลยทีเดียว ฉะนั้นถ้าไม่อยากให้เจ้าตูบที่คุณรักต้องป่วย อย่าลืมสังเกตอาการและพาไปตรวจร่างกายอย่างสม่ำเสมอนะคะ
ขอขอบคุณข้อมูลจาก dogsnaturallymagazine, dogappy และ haamor
No comments:
Post a Comment